Sexy Girls Video Clip Gossip Stars

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฟ้อง50ล้าน"เอ๋-บ๊วย"ใบ้กิน"ไผ่"เอาผิด



''ไผ่ วันพอยท์'' ลูกนักการเมืองชื่อดัง ส่งทนายความ ฟ้องสองพิธีกร ''คันปาก''บ๊วย-เอ๋ ฐานหมิ่นประมาท พร้อมเตรียมฟ้องแพ่งต่อ เรียกค่าเสียหายช่อง 7 และสองพิธีกรไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน ด้าน 2 พิธีกรวอนยังไม่ขอพูดถึงเรื่องคดีความดังกล่าว แจงให้ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการ เพราะตนเองทำตามหน้าที่เท่านั้น วงในเผยผู้ใหญ่ในช่องสั่งทุกคนปิดปากเงียบ ห้ามพูดถึงเรื่องคดีทั้งสิ้น


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน ศาลอาญา ถ.รัชดา นายไผ่ ลิกค์ อายุ 31 ปี หรือ ''ไผ่ วันพอยท์'' อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.กำแพงเพชร ลูกชายนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีต รมช.มหาดไทย และส.ส.กำแพงเพชร ได้มอบอำนาจให้ นายยุทธนา ณ ชนก ตระกูลสม หรือ นายสนั่น วาริทสวัสดิ์ คนใดคนหนึ่ง เป็นผู้ฟ้องดำเนินคดีแทนโจทก์ เพื่อยื่นฟ้อง นายเชษฐวุฒิ หรือ บ๊วย วัชรคุณ และ น.ส.พรทิพย์ หรือ เอ๋ วงศ์กิจจานนท์ สองดาราพิธีกรชื่อดัง ในรายการ ''คันปาก'' ทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา


ตามคำฟ้องระบุพฤติกรรมสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 52 เวลากลางวัน และวันที่ 27 พ.ค. 52 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการคันปากได้กล่าวออกอากาศเสนอข้อความอันเป็น เท็จทำนองว่า นางสาวหยาดทิพย์ ราชปาล ดารานักแสดงและนางแบบชื่อดัง ได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับโจทก์เพื่อเสพยาเสพติด จนมารดา (นางสาวชินพรรณ ราชปาล) ต้องชวนเพื่อนบ้านออกตามหา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เพราะผู้ที่ชมรายการคิดว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี มีพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังทำให้เข้าใจว่าบ้านพักของโจทก์เป็นที่มั่วสุมเสพยาเสพติดหรือ พัวพันการค้ายาเสพติดอีกด้วย ส่งผลให้เสียคะแนนนิยมจนกระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยหน้า และเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูลของโจทก์เป็นอย่างมาก โดยโจทก์ไม่เคยกระทำผิดศีลธรรม หรือกระทำผิดกฎหมายอย่างที่จำเลยกล่าวอ้าง


การใส่ความดังกล่าวของจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่ได้เป็นการเสนอข่าวโดยสุจริต มิได้ติชมด้วยความเป็นธรรม ทำการเสนอข่าวโดยมิได้ตรวจสอบความจริงแต่ประการใด เนื่องจากพิธีกรร่วมในรายการคือ นางสาวศรีพรรณ หรืออ้น ชื่นชมบูรณ์ ยังได้กล่าวในรายการให้พวกจำเลยทราบแล้วด้วยว่า ข่าวดังกล่าวมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือไม่ได้ แต่พวกจำเลยก็ยังนำมาออกอากาศอีก


เหตุเกิดที่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และตำบลแขวง อำเภอ หรือเขตแดนทุกจังหวัดประเทศไทย ศาลพิจารณารับคำฟ้องโจทก์แล้วนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ 31 ส.ค. นี้



ด้านนาย สนั่น วาริทสวัสดิ์ ผู้รับมอบอำนาจกล่าวว่า ตนเองได้รับมอบอำนาจจากคุณไผ่ให้มาทำการฟ้องคดีนี้ ส่วนทนายในคดีนี้เป็นคุณสาคร ศิริชัย วัตถุประสงค์ในการฟ้องในครั้งนี้ ทางผู้ใหญ่คือท่านเรืองวิทย์ ลิกค์ บิดาของคุณไผ่ ซึ่งเป็นอดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรี ท่านเห็นว่าการกระทบกระทั่งกันในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เสียหายมาก เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ในแวดวงทางการเมือง และเพื่อปกป้องเกียรติยศ ในตระกูลลิกค์ที่ไม่เคยมีการประวัติเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดหรือพัวพันมา ก่อนโดยเฉพาะคุณไผ่จึงเห็นสมควรที่ดำเนินการฟ้องร้องในคดีนี้


ส่วนนายสาคร ศิริชัย ทนายความกล่าวว่า ''มูลเหตุของคดีนี้มันเริ่มมาตั้งแต่ช่วงประมาณวันที่ 19-20 พฤษภาคม มีสื่อบางสื่อระบุว่ามีข่าวเรื่องของคุณหยาดทิพย์ ที่หนีไปเสพยาหรือว่าหนีไปบ้านของไฮโซคนหนึ่ง จากกระแสข่าวที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ปรากฏชัด และกระแสข่าวที่ออกมาก็ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน จากการตรวจสอบสื่อต่างๆที่ผมตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 19 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม มีหนังสือพิมพ์บางฉบับลง มีสื่อบันเทิงบางช่องลงแต่ก็ไม่ระบุชัดเจน มาปรากฏทางรายการคันปากในวันที่ 22 เวลาเช้า คุณบ๊วยได้พูดชัดเจนเกี่ยวกับชื่อของคุณหยาดและคุณไผ่ว่าคุณหยาดหนีคุณแม่ไป บ้านคุณไผ่ โดยบอกว่าไม่ได้หนีไปอย่างเดียว แต่หนีไปอัพยา อันนี้คือวันที่ 22 หลังจากนั้นมาก็มีกระแสข่าวหนังสือพิมพ์ลงบ้างแต่ก็ไม่ชัด และก็มาปรากฏเหตุการณ์วันที่ 27 อีก ที่คุณเอ๋เป็นคนพูดชัดเจนเข้าไปอีกว่าไปอัพยาไปเล่นยาที่บ้านของคุณไผ่ วันพอยท์ ปรกติคุณไผ่เองมีข่าวบ้างกับสุภาพสตรีแต่ก็ไม่ได้อยากปรากฏเป็นสื่อ แต่ข่าวเรื่องของการเสพยาเสพติดถือเป็นเรื่องที่รุนแรงของคุณไผ่ เพราะเป็นทายาทนักการเมืองและตัวคุณไผ่เองก็เป็นนักการเมืองด้วยจึงเป็นมูล เหตุของการฟ้องในคดีนี้ ซึ่งในคดีนี้ผมฟ้องสองคน คือคุณบ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ เป็นจำเลยที่ 1 และคุณเอ๋ พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ เป็นจำเลยที่ 2''


ต่อข้อถามว่าทำไมถึงเลือกฟ้องสองพิธีกรนี้ นายสาคร ทนายความกล่าวว่า ''คือดูจากพยานหลักฐานที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าคนไหนพูดจริงๆ เราถึงฟ้อง คนไหนที่เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดถือว่าคนนั้นไม่ได้กระทำความผิด ก็ไม่ได้ฟ้องไป ฟ้องนี่ฟ้องคนพูดมีหลักฐานชัดเจนมีเทปบันทึกเสียงชัดเจน วันที่ 22 พฤษภาคม คุณบ๊วยเป็นคนพูดพิธีกรในวันนั้นมีคุณกิ๊ก, คุณบ๊วยและคุณเอ๋ ส่วนวันที่ 27 พิธีกรร่วมรายการในวันนั้นก็มีคุณเอ๋, คุณอ้นและคุณเอมมี่ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนพูดเพียงคนเดียว ผมก็ฟ้องทีละคน ส่วนในเรื่องค่าเสียหายนะครับ ในวันนี้ยังไม่ได้ฟ้องมาแต่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจะฟ้องร้องโดยเราจะฟ้อง เจ้าของรายการคือช่อง 7 เป็นจำเลยร่วมด้วยในการฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและฟ้องในต่อไป โดยฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นช่อง 7 จำเลยที่ 2 ที่ 3 ก็คือคุณบ๊วยกับคุณเอ๋ตามลำดับกันมา''


ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องค่าเสียหายคาดว่าประมาณเท่าไร ทนายสาครกล่าวว่า ''คิดว่าคงฟ้องน่าจะประมาณ 50 ล้าน ขึ้นไป เพราะเรื่องนี้มันเสียหายมาก เพราะว่าคุณไผ่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.กำแพงเพชรในสมัยที่ผ่านมา ได้คะแนนเสียงถึง 74,000คะแนน ซึ่งเป็นพลังเสียงที่บริสุทธิ์จริงๆ ข่าวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชร และคนที่เคารพเชื่อถือในตระกูล ลิกค์ของคุณไผ่เองสอบถามกันมามันสร้างความเสียหายมากจนเราจำเป็นต้องฟ้อง เพื่อรักษาชื่อเสียงไว้''


ต่อข้อถามว่าทางฝ่ายนั้นได้มีการติดต่อขอประนีประนอมยอมความหรือเปล่า ทนายสาครตอบว่า ''ในชั้นนี้ ก่อนฟ้องคดีผมไม่ได้มีการประกาศก่อน สื่อพึ่งทราบเมื่อตอนเย็นเมื่อวานนี้ คือหลังจากผมรวบรวมคำฟ้องพร้อมที่จะฟ้องผมถึงได้แจ้งไปว่าผมจะฟ้อง แต่ผมไม่ได้ประกาศหรือขู่ว่าจะฟ้อง และต่อจากนี้ไปที่มีสื่อไหนที่เสนอข่าวในลักษณะเดียว ต่อไปนี้นะครับ ที่ผ่านมาเราถือว่าเลิกแล้วต่อกัน ใครที่เสนอข่าวในลักษณะนี้เป็นไปในเชิงลบ ผมก็คงจะไม่ละเว้นนะครับ เพราะคุณไผ่เองเขาไม่ได้อยากให้มีการปรากฏชื่อในส่วนของข่าวบันเทิงอีก''


ต่อข้อถามว่าจะมีการไกล่เกลี่ยไหมทนายความสาครตอบว่า ''การไกล่เกลี่ย ณ ขณะนี้คุณไผ่ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่และให้ถึงที่สุด ส่วนการไกล่เกลี่ยหรือไม่ยังไงเป็นการตัดสินใจของครอบครัวคุณไผ่เอง เพราะเป็นเรื่องของทางครอบครัวเขา แต่เราก็ไม่ได้ปิดทางอะไรเราอยากเห็นการแสดงความรับผิดชอบ เพราะว่าช่อง 7 ก็เป็นที่ทราบดีว่ารายการคันปาก เป็นรายการที่มีผลเฉพาะต่อฐานคะแนนเสียงประชาชนโดยตรง เพราะเรตติ้งมีคนดูหลายล้านคน และก็มีการสื่อสารไปทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย มีการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งในขณะนี้ถ้าเราไปกดดูย้อนหลังของวันที่ 22 วันที่ 27 ยังมีเทปตัวนี้เผยแพร่อยู่ตลอดเวลา''


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฟ้องในคดีแพ่งเมื่อไหร่ ทนายสาครตอบว่า ''คงจะดำเนินการเร็วๆ นี้ รอสัญญาณจากทางครอบครัวคุณไผ่ และตอนนี้เขาแจ้งมาแล้วว่าให้รวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องในคดีแพ่ง''



ต่อข้อถาม หยาดได้มาปรึกษากับทางนี้ด้วยหรือเปล่า นายสาครทนายความกล่าวว่า ''ทางตัวคุณหยาดเองผมมองว่าสื่อที่เสนอข่าวคุณหยาดเองได้มีการพูดต่อสารธารณ ชน แต่ทางคุณไผ่เองอยู่ในฝ่ายที่ตั้งรับอย่างเดียวไม่มีโอกาสได้แก้ตัว ต้องขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งอย่างเดียว''


ต่อข้อถามว่าเตรียมพยานไว้กี่ปาก ทนายสาครตอบว่า ''เตรียมไว้ 10 ปาก เป็นดารากี่ปากตรงนี้ต้องขอสงวนไว้ก่อน แต่ที่แน่ๆ มีคุณหยาด ในส่วนของต้นตอของข่าวลือผมก็จะเรียกมาด้วย ผมให้ความเป็นธรรมนะครับ ที่เขาอ้างว่าเอามาจากรายการวิทยุสื่อใดสื่อหนึ่ง ผมเรียกมาเป็นพยานศาล ผมมีหลักฐานส่วนหนึ่งแล้วมันไม่ชัดเจน หากมีการระบุชัดเจนว่าเป็นคุณไผ่คุณหยาดตามที่เป็นข่าวเหมือนที่รายการคัน ปากเขาบอกอันนี้ผมฟ้องแน่นอนครับ''


ต่อข้อถามว่าศาลจะนัดมาอีกทีเมื่อไหร่ นายสาครทนายความตอบว่า ''นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 31 สิงหาคม 2552 เวลา 09.00น. ที่ศาลอาญารัชดา ก่อนหน้าวันที่ 31 อาจมีการนัดไกล่เกลี่ยซึ่งเป็นตามระบบของกระบวนการยุติธรรม เมื่อคดีอยู่ในศาลเราก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด'' นายสาคร ทนายความกล่าว


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อ่ข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อที่จะสอบถามความคืบหน้าเรื่องคดีดังกล่าว จาก 2 พิธีกร ''เอ๋-พรทิพย์'' และ ''บ๊วย-เชษฐวุฒิ'' แต่ปรากฏว่าทั้งคู่ยังคงปิดปากเงียบ ปฏิเสธไม่ขอพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับคดีดังกล่าวทั้งสิ้น



''ยังไงก็คงต้องรอให้ทางผู้ใหญ่ตัดสินใจก่อนนะครับ ว่าจะดำเนินยังไงต่อไป ไม่ว่ายังไงผมก็อยากให้เคลียร์เหมือนกัน ตอนที่รู้ข่าวก็รู้สึกแปลกนิดๆ เพียงแต่ผมเองก็ทำตามหน้าที่เท่านั้น ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับใครเลย ยังไงก็ต้องรอทางผู้ใหญ่นะครับ อีกสักพักเดี๋ยวก็คงจะแถลงนะครับ รอสักพักหนึ่ง'' บ๊วยกล่าว


ทั้งนี้ ก็ยังมีกระแสข่าวออกมาอีกด้วยว่า ในวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย. 52 เวลาประมาณ 08.30 น. จะมีการแถลงข่าวของ 2 พิธีกร ''บ๊วย-เอ๋'' ณ ช่อง 7 ที่รายการ ''คันปาก'' แต่เมื่อผู้สื่อข่าว ''สยามดารา'' ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากแหล่งข่าววงในรายการ ''คันปาก'' ปรากฏว่าแหล่งข่าวได้ชี้แจงว่างานแถลงข่าวดังกล่าวจะไม่มีทั้งสิ้น เนื่องจากผู้ใหญ่สั่งรูดซิปปาก


''เรื่องแถลงข่าววันที่ 5 มิ.ย. เหรอ จริงๆ ก็ไม่มีแถลงข่าวอะไรทั้งนั้นเลยนะ ไม่รู้เหมือนกันว่านักข่าวไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน เพราะทางรายการแล้วก็ทางช่องยังไม่ได้สรุปอะไรเลย รู้แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีให้ใครออกมาพูดให้เงียบไว้ เพราะเป็นคำสั่งผู้ใหญ่ว่ายังไม่ให้พูดอะไรทั้งนั้น อาจจะต้องรออีกสักพักแหละ'' แหล่งข่าววงในรายการคันปากกล่าว

ป้ายกำกับ:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก