Sexy Girls Video Clip Gossip Stars

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

“นร.สาวไทย” ขอโทษ ไม่ตั้งใจแหกตา ยัน เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองได้รางวัล ด้าน “ปรัชญา” โดดป้อง อ้างเจ้าตัวภาษาไทยไม่แตกฉาน


“อุ้ม” นร.สาวไทย ขอโทษ กรณีให้ข่าวว่าตัวเองได้รางวัลหนังสั้นที่คานส์ ยัน ไม่ตั้งใจโกหก อ้าง เป็นเพราะเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองได้รางวัล ออกปากเสียใจ ที่ทำให้หลายฝ่ายเสียหาย ก่อนรับ เครียดจนร้องไห้ทุกวัน ด้าน “ปรัชญา” โดดป้อง สาวอุ้มภาษาไทยไม่แตกฉาน จึงทำให้การสื่อสารผิดพลาด ปฏิเสธมีส่วนรู้เห็น ย้ำ เพิ่งรู้เหมือนกัน

กลายเป็นเรื่องโอละพ่อไปซะงั้น สำหรับข่าวคราวที่ "อุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์" นักเรียนสาวไทยวัย 24 ปี ไปคว้ารางวัล "Best Student Film" และ "Official Selection" จากหนัง "Revenge Tragedies" และ "Unfaithfully Yours" จากเทศกาลภาพยนตร์ "คานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2009" ที่จัดขึ้นในวันที่ 13-24 พ.ค.ที่ประเทศฝรั่งเศส จนเป็นข่าวดังกระหึ่มสร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ไปเมื่อหลายวันก่อน

กระทั่งถูกสื่อจ่อคิวสัมภาษณ์ยาวเหยียด ส่งผลให้ชื่อเสียงโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมกับนำหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ เป็นการยืนยันว่าข่าวการได้รับรางวัลของเธอไม่เป็นความจริง ทั้งหมดเป็นเรื่องแหกตาทั้งเพ

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกดดันให้เธอ จนกระทั่งต้องออกมาสารภาพผิดด้วยตัวเอง กลางรายการ "เที่ยงวันทันเหตุการณ์" ทางช่อง3 ซึ่งดำเนินรายการโดย "วิศาล ดิลกวณิช" เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่าทั้ง 2 รางวัล เป็นเรื่องเข้าใจผิดของการสื่อสารที่ผิดพลาดเท่านั้น ซึ่งก็ทำเอาคนไทยผิดหวังไปตามๆ กัน

ล่าสุด เจ้าตัวได้เดินทางมาเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ที่ โรงหนังเฮ้าส์ อาร์ซีเอ(House Rca) พร้อมด้วย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และ “ศรีรัตน์ นุชนิยม” ซึ่งเป็นตัวแทนมาจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โดยเจ้าตัวได้เปิดชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งหนังเรื่อง Revenge Tragedies ไปให้กับเอเจนซี่ ที่จัดส่งหนังเข้าประกวดในเทศกาลต่างๆ รวมแล้วกว่า 23 เทศกาล แต่ที่เมืองคานส์เป็นเพียงการนำไปฉายที่บูธ เพื่อให้คนมาดูและวิจารณ์ผลงานเฉยๆ ไม่ได้ส่งเข้าประกวดแต่อย่างใด

ส่วนต้นเหตุของการเข้าใจผิด เธอบอกว่ามาจากคำว่า Best Student Film ซึ่งคำดังกล่าวเป็นคำชมของคนดูที่ส่งมาทางอีเมล์ ไม่ได้หมายถึงการได้รับรางวัล อย่างที่ตัวเองเข้าใจแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าตัวบอกว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ด้านปรัชญาออกตัวแทน อีกฝ่ายไม่เจตนาโกหกหลอกลวง แต่เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารภาษาไทย

ปรัชญา : “ก่อนอื่นขอพูดจากใจจริงผมเลยนะว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมขอแสดงความเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็คุยกับน้องแล้ว ผมอธิบายกับน้องแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ดีทีสุดคือน้องต้องออกมาพูดจากใจจริงวันนี้ ยอมรับว่ามีความผิดอยู่แล้ว ผิดที่ทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายขนาดนี้ แต่ว่าผิดยังไงให้น้องเขากล่าวจากใจอีกทีดีกว่า”

“ระหว่างผมกับน้องเขา เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปอเมริกา แล้วมีคนแนะนำให้รู้จักกับน้องเพราะน้องเรียนภาพยนตร์ที่นั่น และจากการที่ได้รู้จักกัน ทำให้ผมเห็นมุมมองและทำให้มีโอกาสเห็นผลงานของเขา เป็นหนังสั้น ตอนนั้นเขาทำเสร็จแล้วหนึ่งเรื่อง แล้วหนังสั้นเรื่องนั้นก็เป็นหนังสั้นที่โดดเด่นในห้องเรียนของเขา เพื่อนๆ ในห้องก็โหวตให้ว่าหนังสั้นของน้องอุ้มเป็นหนังสั้นที่ทุกคนยอมรับ เพื่อนๆ ก็ปรบมือให้อันดับหนึ่งเพราะดีที่สุด แล้วเท่าที่ผมดูก็ถือว่าดี ความเป็นผู้หญิงอายุเท่านี้ บวกกับหนังสั้นที่ออกมาผมพอใจ”

“หลังจากนั้นน้องอุ้มก็เดินทางกลับมาเมืองไทย เพื่อการทำหนังสั้นเรื่องที่สอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อจะจบ ผมก็เลยเป็นโปรดิวเซอร์หนังเรื่องนั้นให้ สคริปและการกำกับเป็นของน้องอุ้ม พอเสร็จผมได้ดูเป็นบางส่วน เพราะมีการตัดแบบหยาบๆ ออกมา เพื่อที่จะส่งอาจารย์ก่อนที่จะบินกลับ เพราะว่าเรื่องไข้หวัดหมู และผมรู้สึกชอบเรื่องที่สองมากกว่าเรื่องแรก ทำให้ไอเดียที่น้องบอกว่าถ้าเรียนจบอยากกลับมาทำหนัง มันก็เลยถูกพูดคุยกันต่อมาเรื่อยๆ”

“ผลสุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจจะทำหนังกับน้องอุ้มครับ ส่วนผมจะเป็นโปรดิวเซอร์ให้ และได้มีการพูดคุยกับเสี่ยเจียงแล้ว และเสี่ยเจียงก็สนใจแล้ว แต่ทั้งหมดเพิ่งเป็นการคุยกันไปเมื่อไม่นานนี้เอง ซึ่งในเบื้องต้นเสี่ยเจียงอนุมัติแล้ว และจะต้องมีขั้นตอนต่างๆ ต่อไป แต่หลังจากโปรเจ็กต์อนุมัติแล้ว ถึงเกิดเรื่องการให้สัมภาษณ์ของน้องอุ้ม และมีข่าวว่าน้องชนะรางวัลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ และหลังจากที่ผมพบกับน้องอุ้มมา และเราคุยกันมาตลอด ส่วนตัวผมไม่เคยสนใจหนังสั้นของน้องอุ้มที่ส่งไปในเทศกาลเลย คือน้องก็มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ว่าส่งไปที่นั่นส่งไปที่นี่”

“ซึ่งน้องก็บอกว่าเขาตอบกลับมาเรื่องนั้นเรื่องนี้นะ ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจตรงนั้นเลย ไม่ได้เอามาดูว่ามันได้ที่ไหนบ้าง ได้จริงไม่จริง เนื่องจากว่ามันน่าจะเป็นไปได้ เพราะเห็นผลงานเขาแล้ว จึงเชื่อว่าเป็นไปได้ ผมยังรู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่เห็นน้องอุ้มขยันทำหนังสั้น แล้วขยันส่งเทศกาล ผมยังแอบมองเลยว่า ถ้ากลับมาบ้านเราแล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีที่มีเด็กมีโอกาสแบบนี้ เป็นเรื่องที่ดีของวงการหนังไทย ว่าคนที่ทำหนังสั้นแล้วรู้จักที่จะนำผลงานส่งไปตามเทศกาลต่างๆ เพราะหลายๆ เทศกาลเขาเปิดรับอยู่แล้ว แต่ในรายละเอียดผมไม่ได้ไปรู้อะไรกับน้องอุ้มเลย เพราะผมไม่ได้สนใจ ผมสนใจเขาจากผลงานและจากการคุย”

“ผมขายโปรเจ็กต์กับเสี่ยเจียงผ่านคืนวันที่ 21 พอวันที่ 22 น้องอุ้มเขาจัดงานวันเกิด ผมก็เลยเอาข่าวดีนี้ไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เขา แล้ววันที่ 24 หนังสือพิมพ์ข่าวสดก็นัดน้องอุ้มสัมภาษณ์ เรื่องเรียนเรื่องอะไร แล้วตอนสัมภาษณ์น้องอุ้มก็เล่าเรื่องคานส์ เล่าเรื่องอะไรที่ไปเจอมา แล้วทำให้ลงข่าวว่าน้องอุ้มได้รับรางวัล แล้วเช้าวันที่ 25 ตอนตีสี่ผมก็ได้ดูทีวีช่อง3 ก็เอาข่าวที่พาดหัวน้องอุ้มชนะรางวัลมาออกทีวี ผมยังตกใจเลย ว่าน้องอุ้มได้รางวัลเหรอ น้องอุ้มชนะเหรอ ตอนแรกผมก็เชื่อว่าน้องอุ้มได้รางวัล ผมก็ดีใจไปด้วย”

“หลังจากนั้นพอกลางวันวันที่ 25 ก็มีรายการทีวีติดต่อขอสัมภาษณ์น้องอุ้มมากขึ้น ไอ้เรื่องขอสัมภาษณ์ผมไม่ไปยุ่งกับน้องอุ้มเลยเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเขา หลายๆ สื่อก็ติดต่อตรงไปที่น้อง แต่พอตกเย็นวันที่ 25 น้องอุ้มโทร.หาผม เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่ามันมีการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว แต่เขาไม่ได้พูดชัดเจนว่าความเข้าใจผิดคืออะไร แต่ที่แน่ๆ คือเกี่ยวกับคานส์ ปกติผมจะยุ่งมากๆ เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยมีเวลาคุยกับน้องอุ้มเท่าไหร่”

“แต่น้องบอกว่าสงสัยจะมีปัญหารึเปล่ากับรางวัลที่คานส์ ผมก็ถาม แต่จับใจความได้ไม่ค่อยชัดว่าน้องอุ้มพูดว่าอะไร แต่ผมก็บอกว่าตรงนี้สำคัญมาก ให้ไปเช็คในอินเตอร์เน็ต ว่ารางวัลที่น้องอุ้มว่ามามันเป็นรางวัลอะไร ซึ่งเท่าที่ผมจับใจความได้ก็คือ Best Student Film คำๆ นี้ส่วนตัวผมก็คิดว่ารางวัลชนะเลิศ แต่ที่น้องอุ้มอธิบายมาคือ คำว่า Best อะไรก็ตาม บางทีมันไม่ได้มีแค่รางวัลเดียว อย่างเช่นมี 10 รางวัล ก็ Best ทั้ง 10 เลย น้องก็เล่าให้ผมฟังแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังเข้าใจอยู่ว่าน้องได้รางวัลที่คานส์”

“ผมก็เลยแนะนำไปว่าไปเช็คอินเตอร์เน็ต แต่ว่าหาข้อมูลไม่เจอว่าเป็นรางวัลอะไร น้องอุ้มก็หาไม่เจอ แล้ววันที่ 26 มีคิวสัมภาษณ์เยอะเหมือนกัน ผมก็เลยแนะนำไปว่าให้น้องออกตัวก่อนว่า รางวัลที่คานส์อาจจะไม่ใช่รางวัลเดียวนะ แต่ว่ารางวัลเป็นยังไงน้องอุ้มยังไม่รู้ ให้แจ้งสื่อด้วย และย้ำตลอดว่าตรงนี้สำคัญมากๆ นะ เพราะเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน เดี๋ยวจะหาว่าเราโมเม”

“วันที่ 25 รายการของคุณวิศาล(ดิลกวณิช) ซึ่งคุณวิศาลก็ต้องอ่านจากข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์ ว่าน้องอุ้มได้รางวัล เพื่อให้คนไทยแสดงความยินดีที่น้องได้รับรางวัล ทีนี้วันที่ 26 คุณวิศาลอยากสัมภาษณ์น้องอุ้มเอง น้องก็มาเล่าให้ฟังแต่ก็ไม่ได้ยุ่ง ก็ปล่อยให้เขาไป แต่เราก็ได้ย้ำไปอีกว่าให้อธิบายรางวัลที่เกี่ยวกับคานส์ ว่าไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะ ซึ่งใช้เวลานานเหมือนกันในการอธิบาย ว่าความเข้าใจผิดมันจะเป็นยังไง แต่น้องอุ้มเขาก็คิดว่าในเมื่อคำว่า Best Film มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว”

“ผมยอมรับอย่างนึงว่า ตั้งแต่รู้จักกันมา เรื่องภาษาไทยของน้องจะใช้คำผิดอยู่เรื่อย เป็นเรื่องของคำนะครับ ไม่ได้เป็นทั้งประโยค อย่างเช่นคำเรียกผมว่าอา แต่ว่า ต้อม ยุทธเลิศ กับ อ็อด บัณฑิต เขาอายุน้อยกว่าผม แต่น้องเรียกว่าลุง คือเขาเข้าใจคำว่าอากับลุงสลับกัน มีหลายคำที่ผมจำไม่ได้ แต่ผมยืนยันได้ว่าข้างในไม่มีอะไร การใช้ภาษาไทยเขามีปัญหามาตลอด ส่วนตัวผมเรื่องนี้มองว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่การไปออกสื่อมันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งก็ยอมรับว่าข้อมูลที่พูดออกไปถือว่าผิด แต่ไม่ได้ผิดทั้งหมด แต่มีอะไรที่ผิดบ้าง อะไรที่ถูกบ้างอยากให้น้องอธิบายด้วยตัวเขาเอง”

“บางคนสงสัยว่าทำไมถึงเพิ่งออกมาพูดวันนี้ ในเมื่อเรื่องเกิดตั้งแต่วันที่ 25 ที่ผมรู้เรื่อง แต่ผมยืนยันนะว่าตอนนั้นเขาได้รางวัลอยู่ ก็เลยคิดว่าให้น้องแก้ข่าวด้วยตัวเขาเองตั้งแต่วันที่ 26 แล้วพอวันที่ 27 ผมก็เริ่มเห็นข้อมูลอะไรที่มากกว่านั้น เริ่มเห็นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต อ่านแล้วรู้สึกว่ามันต้องเป็นปัญหาแล้ว แต่ว่าวันที่ 27 ผมไปเชียงใหม่แล้ว ซึ่งก็บอกน้องไปว่าหลังจากวันที่ 27 ให้หยุดสัมภาษณ์ก่อน แล้วก็กลับมาทำความเข้าใจกับข้อมูลทั้งหมด จากที่ไม่เคยสนใจเลย ดูทั้งจากข้อมูลและความเห็นจากหลายๆ ที่ จากนั้นวันที่ 28 ผมนัดน้องเคลียร์ทุกอย่างกันสองคน ซึ่งตอนนั้นผมก็มั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้รับรางวัลที่คานส์แน่ๆ แล้วผมก็เริ่มประเมินสถานการณ์ว่ามันเริ่มไม่ดี มันหนักมาก ผ่านไปหลายวันแล้วด้วยยิ่งหนักไปใหญ่เลย คือน้องอุ้มต้องขอโทษแล้วล่ะ”

ป้ายกำกับ:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก